วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2554

วิธีการปิด Service ของโปรแกรม Windows เพื่อให้เครื่องทำงานเร็วขึ้น

Speed up by Disable เร่งเครื่องให้เต็มที่ ด้วยการปิด Service ที่เราไม่ได้ใช้งาน ที่ติดมากับระบบปฏิบัติการ Windows เยอะมาก ซึ่งทำให้เครื่องช้าลงไป ทั้งที่จริงๆแล้ว เราใช้งาน Service เพียงไม่กี่ตัว ทำให้ระบบเสียเวลาไปประมวลผล service ที่ไม่ได้ใช้งานด้วย









ปัญหาคือ สำหรับเราแล้ว Service ตัวไหนบ้างที่ไม่ได้ใช้งาน?

เข้าไปดูกัน

เริ่มที่ Start เลือก Run พิมพ์ service.msc กดปุ่ม OK หน้าต่าง Service ก็จะรันขึ้นมา ในนั้นจะมี Service มากมายที่สามารถปรับตั้งค่าการทำงาน (Startup Type) โดยจะแบ่งรูปแบบการตั้งค่าดังนี้
  • Automatic ให้เริ่มทำงานโดยอัตโนมัติทุกครั้ง ที่เปิดเครื่อง และบูตเข้าสู่วินโดวส์
  • Manual ไม่ให้เริ่มทำงานเอง แต่จะสามารถสั่งให้หยุดหรือเริ่มการทำงานได้โดยผู้ใช้เอง หรือโปรแกรมบางตัว
  • Disable เป็นการปิดการทำงานของ Service ไม่ให้เริ่มการทำงาน



โหมด Startup ของ Service มีอยู่ด้วยกันหลัก 3 แบบแล้วแต่รูปแบบการใช้งาน
Service ไหนปิดได้บ้าง

เนื่อง จาก Service ของระบบวินโดวส์มีอยู่มากมาย บางตัวเป็น Service ของโปรแกรมต่างๆ ที่เราติดตั้งไว้ และบางตัวก็เป็น Service ของระบบเอง 
ดังนั้นจึงต้องทราบก่อนว่า Service ไหนเป็นของอะไร และจะต้องใช้งานหรือไม่ จึงค่อยตัดสินใจปิด เราไปดูกันเลยดีกว่ามี Service อะไรบ้างที่น่าจะปิดกันได้




ใช้คำสั่ง Run แล้วพิมพ์ service.msc เพื่อเข้าสู่หน้าจอ Service




หน้าจอ Service จะมีรายชื่อของ Service ในเครื่องคุณมากมาย



ดับเบิลคลิกที่ชื่อ Service เพื่อตั้งค่าเกี่ยวกับ Service นั้น



เราสามารถคลิกขวาแล้วเลือก Start or Stop เพื่อเริ่มและหยุดการทำงานของ Serviceได้ทันที

  • AdobeLM Service: เป็น Service ของ Adobe ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรครับ ถ้าใครมีตัวนี้อยู่ก็ปิดได้เลย 
  •  
  • Alerter: ตัวนี้ถ้าคุณไม่ได้เชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายก็สามารถปิดได้เลย 
  •  
  • Application Management: สำหรับตัวนี้ไม่แนะนำให้ปิดครับ แต่ให้เปลี่ยนเป็น Manual แทน 
  •  
  • Automatic Updates: Service สำหรับ Windows Update ครับ ไม่ควรปิด นอกเสียจากว่าคุณจะใช้วิธีการอัพเดตแบบ Offline อย่างโปรแกรม AutoPatcher แทนครับ 
  •  
  • ClipBook: เป็นตัวสำหรับแชร์บางอย่างบนเครือข่าย ส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้อยู่แล้ว ปิดซะ 
  •  
  • Computer Browser: ปิดอีกตัวถ้าไม่ได้ต่อกับเครือข่ายเหมือนกัน เพราะมันไว้สำหรับเข้าไปดึงไฟล์จากเครื่องอื่น 
  •  
  • Cryptographic Services: ตัวนี้เป็นการเข้ารหัส ถ้าไม่แน่ใจว่าจำเป็นไหมก็ตั้งไว้เป็น Manual ครับ 
  •  
  • Distributed Transaction Service: ตั้งค่าไว้เป็น Manual 
  •  
  • DNS Client: ตัวนี้เปลี่ยนเป็น Manual ไปก็ได้ครับถ้าไม่ได้เชื่อมต่อกับเครือข่าย 
  •  
  • Error Reporting Service: เวลามีโปรแกรมแฮงก์แล้วให้กดปุ่ม Don’t Sent ก็เพราะเจ้า Service ตัวนี้แหละครับ ดังนั้นปิดมันไปเลย 
  •  
  • Fast User Switching Compatibility: สำหรับเครื่องที่มีแรมน้อยปิดไปเลยดีกว่าครับ เพราะ Fast User Switching มีไว้สำหรับการสลับการทำงานของ User โดยไม่ต้อง Logout ก่อน ถ้าคุณมีหรือใช้แค่ User เดียวอยู่แล้วก็ปิดไปเลยครับ 
  •  
  • FTP Publishing: ถ้าไม่ได้ใช้ FTP ก็ปิดได้เลยครับ 
  •  
  • Help and Support: ถ้าคุณไม่เคยใช้ Help ของ Windows เลย (ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ใช้) ปิดไปเลยดีกว่าครับ 
  •  
  • HTTP SSL: ตั้งไว้เป็น Manual ครับ เผื่อต้องใช้เวลาเข้าเว็บที่มี Secure Login อย่างเว็บ E-Banking 
  •  
  • Human Interface Device Access: ถ้าคุณไม่ได้ใช้ Hot-key หรือ remote system ก็ปิดไปก็ได้ครับ 
  •  
  • IMAPI CD-Burning COM Service: Service สำหรับคนที่ใช้ไดรฟ์เขียนแผ่น CD/DVD ไม่ควรปิด แต่ตั้งไว้เป็น Manual จะดีกว่า เพื่อประหยัดเมมโมรี 
  •  
  • Indexing Service: ตัวนี้เป็น Service ที่กินทรัพยากรสูงมาก สำหรับทำ Index ในการค้นหาข้อมูลในเครื่อง ดังนั้นถ้าคุณไม่ได้ใช้ฟังก์ชันค้นหาของวินโดวส์เลย ก็ปิดมันไปได้เลย เครื่องจะเร็วขึ้นอีกเยอะ 
  •  
  • InstallDriver Table Manager: ตัวนี้ปิดไปได้เลยเหมือนกันครับ ไม่ส่งผลต่อการทำงาน 
  •  
  • IPSEC Services: ตั้งไว้เป็น Manual ดีกว่า 
  •  
  • Windows Messenger: ถ้าคุณไม่ได้ใช้ Windows Messenger (ไม่ใช่ MSN Messenger หรือ Windows Live Messenger นะครับ) ก็รีบปิดไปเลยครับ เพราะมันกินแรมเยอะมาก 
  •  
  • MS Software Shadow Copy Provider: อันนี้ตั้งค่าให้เป็น Manual ครับ 
  •  
  • Net Logon: อันนี้เปิดได้เลยครับถ้าไม่ได้เชื่อมต่อระบบเครือข่าย 
  •  
  • NetMeeting Remote Desktop Sharing: สำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ได้ใช้ Remote Desktop อยู่แล้วก็ปิด Service นี้ไปได้เลยครับ 
  •  
  • Network Provisioning Service: ถ้าไม่ได้เชื่อมต่อกับเครือข่ายก็ปิดอีกเหมือนกัน 
  •  
  • NT LM Security Support Provider: ปิดไปได้อีก 1 ตัวเลยครับ 
  •  
  • NVIDIA Display Driver Service: สำหรับคนใช้การ์ดจอ nVidia แล้วไม่ได้เปิดใช้ nVidia Desktop ก็ปิดดีกว่าครับ 
  •  
  • Office Source Engine: ตัวนี้ปิดไปได้อีกเหมือนกัน ใช้ในกรณีที่ MS Office ของคุณมีปัญหาแล้วต้องการซ่อมแซมไฟล์ระบบ ซึ่งคุณสามารถใช้แผ่น CD ติดตั้งที่มีอยู่มาแทนได้อยู่แล้ว 
  •  
  • Portable Media Serial Number Service: ตัวนี้ตั้งไว้เป็น Manual ครับเพราะเราน่าจะใช้สื่อแบบพกพากันบ่อยอยู่แล้ว 
  •  
  • Print Spooler: ถ้าคุณไม่ได้มีพรินเตอร์ก็ปิดไปได้อีกแล้ว 
  •  
  • Protected Storage: ปิดไปเลยครับ ถ้าคุณไม่ได้ให้คนแปลกหน้ามานั่งเครื่องคุณอยู่แล้ว 
  •  
  • Remote Desktop Help Session Manager: เป็นอีกหนึ่งตัวที่ถ้าคุณไม่ได้ใช้ Remote Desktop ก็ปิดไปจะดีกว่า 
  •  
  • Remote Procedure Call Locator: อันนี้ให้ตั้งไว้เป็น Manual ครับ 
  •  
  • Remote Registry: รีบปิดไปเลยครับ Service นี้ ถ้าเปิดไว้อาจจะเป็นภัยในภายหลังได้ 
  •  
  • Removable Storage: ตัวนี้ไม่ควรปิดครับเพราะเราใช้พวกแฟลชไดรฟ์อยู่แล้ว อย่างดีก็แค่ตั้งไว้เป็น Manual ครับ 
  •  
  • Routing and Remote Access: อันนี้ให้ตั้งเป็น Manual ครับ 
  •  
  • Secondary Logon: ไม่ค่อยมีประโยชน์ครับ ปิดไปได้เลย หรือถ้าไม่แน่ใจก็ปรับเป็น Manual

  • Security Accounts Manager: ปิดไปเลยก็ได้ครับไม่ได้ใช้อยู่แล้วนอกจากจะใช้การเข้ารหัสบน NTFS 
  •  
  • Security Center: อันนี้ก็ปิดไปด้วยก็ได้ครับ กินทรัพยากรเครื่องไปเปล่าๆ 
  •  
  • Server: ถ้าคุณไม่ได้ต่อกับเครือข่ายก็ปิดไปอีกตัวหนึ่งครับ 
  •  
  • Smart Card: ไม่มีค่อยมีใครใช้ Smart Card กับเครื่องที่บ้านใช่ไหมครับ ดังนั้นปิดไปเถอะ 
  •  
  • SSDP Discovery Service: ใช้สำหรับรองรับอุปกรณ์เครือข่ายแบบ UPnP ดังนั้นไม่มีก็ปิดครับ 
  •  
  • Task Scheduler: ถ้าคุณไม่ได้ตั้งการทำงานอะไรไว้ที่ Task Scheduler อย่างสแกนดิสก์ หรือจัดเรียงข้อมูลก็ปิดครับ 
  •  
  • TCP/IP NetBIOS Helper: ตั้งไว้เป็น Manual ครับตัวนี้ 
  •  
  • Telnet: ถ้าคุณเป็นผู้ใช้ตามบ้าน Telnet คงไม่ใช้ ดังนั้นปิดครับ แต่ถ้าคุณชอบซนหน่อยอาจจะตั้งเป็น Manual ก็ได้ 
  •  
  • Terminal Services: ถ้าคุณไม่ใช้ Remote Desktop ก็ปิดไปอีกเหมือนกัน 
  •  
  • Uninterrupted Power Supply: ปิดไปได้เลยครับถ้าคุณไม่ได้ต่อ UPS เข้ากับคอมพิวเตอร์ผ่าน COM Port 
  •  
  • Universal Plug and Play Device Host: อันนี้ปิดไม่ได้ครับ แต่ตั้งให้เป็น Manual ได้ 
  •  
  • User Privilege Service: อันนี้ให้ตั้งเป็น Manual ครับ 
  •  
  • Volume Shadow Copy: ปิดไปได้เลยครับถ้าคุณไม่ได้ใช้ System Restore ของวินโดวส์ 
  •  
  • Windows Firewall/Internet Connection Sharing (ICS): อันนี้จะเปิดไว้ก็ได้ครับ แต่ถ้าคุณมีซอฟต์แวร์ไฟร์วอลล์อยู่แล้วมันจะซ้ำซ้อนกันเล็กน้อย ดังนั้นปิดดีกว่า (ถ้าคุณมีซอฟต์แวร์ไฟร์วอลล์นะ) 
  •  
  • Windows Image Acquisition (WIA): ใช้สำหรับดึงภาพออกจากกล้องดิจิตอลและสแกนเนอร์ ปิดถ้าไม่ได้ใช้ 
  •  
  • Windows Media Connect: ถ้าคุณไม่ได้มีเครื่องเล่น MP3 ที่รองรับการ Sync ข้อมูลกับ WMP ได้ก็ปิดไปได้เลยครับ 
  •  
  • Windows Media Connect (WMC) Helper: ปิดตัวนี้ด้วยครับ มันสัมพันธ์กับตัวข้างบน 
  •  
  • Windows Time: ถ้าไม่ได้ใช้ระบบตั้งเวลากับ Server ก็ไม่ต้องใช้ครับ 
  •  
  • Wireless Zero Configuration: ปิดไปถ้าไม่ได้ใช้เครือข่ายไร้สาย 
  •  
  • WMI Performance Adapters: อันนี้ก็ปิดได้ครับ สำหรับการใช้งานทั่วไป 
  •  
  • Workstation: ปิด Service อันนี้ด้วยครับถ้าคุณไม่ได้เชื่อมต่อกับเครือข่าย
ข้อควรระวัง
การ แก้ไขการตั้งค่า Service เป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงสูง 
ถ้าปิด Service ที่สำคัญกับระบบ อาจจะทำให้การทำงานบางอย่างไม่สามารถทำงานได้หรือส่งผลเสีย หายต่อระบบ ดังนั้น ควรอ่านรายละเอียดของ Service แต่ละตัวให้ดีเสียก่อน และถ้าไม่แน่ใจจริงๆ ก็อย่างไปปรับ หรือปรับเป็น Manual แทนที่ปิด เพื่อลดความเสี่ยงลง




แต่ละ Service จะมีคำอธิบายอยู่ข้างๆ  ก่อนปรับ ควรทำความเข้าใจว่า Service นั้นทำหน้าที่อะไร และจำเป็นต้องใช้หรือไม่

สรุป
เห็นได้ว่ามี Service ที่บางครั้งไม่ได้ใช้งานเลย หรือนานๆ ใช้ที อยู่มากมายในเครื่อง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ทำให้สิ้นเปลืองทรัพยากรของเครื่องไปโดยเปล่าประโยชน์ โดยเฉพาะ คนที่ใช้คอมพิวเตอร์โดย ไม่ได้เชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายจะเห็นว่ามี Service ที่ไม่ได้ใช้อยู่เป็นจำนวนมากเลย
ก็ถือว่า เป็นทางเลือกอีกหนึ่งทางสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มความเร็วให้กับ เครื่องคอมพิวเตอร์ 
แน่นอนว่า มันอาจจะมีประโยชน์มากๆ แต่นั่นก็หมายความว่า คุณจะต้องเสียความสามารถบางอย่างของวินโดวส์ไปด้วยในการปิดแต่ละ Service 
หรือถ้าตั้งเป็น Manual พอจะใช้งานครั้งหนึ่ง ก็ต้องเสียเวลามารัน Service อีก ดังนั้น ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง แต่สำหรับคนที่รู้อยู่แล้วว่าตัวเองต้องใช้งานอะไรบ้าง ก็สามารถปิดส่วนที่ตน เองไม่ใช้งานจริงๆ และปรับเป็น Manual ในส่วนที่ใช้งานนานๆ ทีได้ เพียงแค่นี้ก็น่าจะเพิ่มความเร็วให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้อีกไม่มากก็ น้อยล่ะครับ

ที่มาข้อมูล http://www.masternewmedia.org/

Credit   computers-tick.blogspot.com
Debit      All Admin In Thailand


หลังจากนั้นเข้าโรงพยาบาลทั้งคู่





Lady GaGa หัวทิ่ม



เรื่องจริงของชีวิต





ยอดซามูไร






ถอยออกไป เตียงหล่น




หนังสั้น ของจริง







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น